วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู

...ขอต้อนรับสู่บล็อค"yuiiz"ด้วยความยินดีค่ะ:D......



..................ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น ไมโครซอฟต์คอทพิวเตอร์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ระบบการสื่อสารข้อมูล ระบบเน็ตเวริ์ก ระบบซอฟต์แวร์ การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศ ทักษาะการเข้าถึงสารสนเทศ ฐานข้อมูลสารสนเทศ ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ฃและการอ้างอิง ฝึกปฏิบัติการ สามารถใช้คอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐานและเทคโนโลยีสานสนเทศและการสื่อสารได้อย่างเหมาะสมได้



วัตถุประสงค์ในรายวิชา

............เมื่อผู้เรียนศึกษาเนื้อหาบทเรียนจบแล้วตามหลักสูตรจะมีพฤติกรรมหรือความสามารถดังนี้


1. อธิบายความหมาย ความสำคัญ และองค์ประกอบของเทคโนโลยีสานสนเทศได้
2. อธิบายความสันพันธ์ของเทคโนโลยีสารสนเทศได้
3. ยกตัวย่างเทคโนโลยีสารสนเทศได้และการสื่อสารในชีวิตจริงได้
4. อธิบายความหมายและความสำคัญของวิธีระบบได้
5. อธิบายความสันพันธ์ของวิธีระบบกับเทคโนโลยีสารสนเทศได้
6. บอกความหมายและองประกอบสำคัญของคอมพิวเตอร์ได้
7. อธิบายหน้าที่ขององค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ได้
8. บอกประเภทและคุนสมบัติของซอฟแวร์แต่ละประเภทได้
9. บอกความหมายและความสำคัญของอินเทอร์เนตได้
10. บอกความสันพันธ์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
11. อธิบายแหล่งเรียนรู้ต่างๆที่สามารถเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายได้
12. อธิบายวิธีประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษาได
13. ยกตัวอย่างโปรแกรมต่างๆที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนได้
14. สร้างสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนการสอนได้
15. นำสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งที่เป็นสื่อทั่วไปและสื่อระบบเครือข่ายได้
..




.LET'S DO IT..


1.จงหาความหมายของคำว่า เทคโนโลยี
2.จงหาความสำคัญของเทคโนโลยีในปัจจุบัน
3.จงยกัวอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาพอสังเขป


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ความซื่อสัตย์




ความซื่อสัตย์สุจริตจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าดูตามคำวิเคราะห์ศัพท์ในพจนานุกรม ความซื่อสัตย์สุจริตจะเกิดขึ้นได้โดย ผู้ปฏิบัติจะต้องมีสัจจะทั้งกาย วาจา ใจ ยึดมั่นทำแต่สิ่งที่ชอบ ไม่ประสงค์ในสิ่งที่ไม่ถึงได้อันจะนำไปสู่ความทุจริต ในการกระทำทุกอย่าง ปากพูดอะไรก็ทำอย่างนั้น คือ ปากกับใจต้องตรงกัน ที่กล่าวมานี้เป็นความหมายของความซื่อสัตย์สุจริตในความหมายทั่วไป แต่ในกรณีของผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายนั้น คำว่า “ ซื่อสัตย์สุจริต ” มีความหมายลึกซึ้งกว่านี้มากและจะแตกต่างจากวิชาชีพอื่น เช่น เจ้าพนักงานเขตหรืออำเภอให้บริการที่ดีแก่ประชาชนที่ไปติดต่อขอเปลี่ยนชื่อ นามสกุล หรือในกรณี ผู้ป่วยไปหาแพทย์ แพทย์และพยาบาลให้การดูแลอย่างดี ให้ความสะดวกรวดเร็วในการรักษา ผู้บริการในทั้งสองกรณีพอใจกับบริการที่ได้รับจึงนำของกำลังหรือของขวัญไปให้เจ้าพนักงานอำเภอ แพทย์ หรือพยาบาลที่ให้บริการ อย่างนี้วิชาชีพอื่นถือว่าไม่เป็นไร รับไว้ได้ไม่ขัดต่อความซื่อสัตย์สุจริต เพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีคู่กรณี มีเฉพาะผู้ให้บริการและ ผู้รับบริการ แต่ในวิชาชีพกฎหมายนั้นแม้เราจะชี้ขาดหรือตัดสินไปด้วยความยุติธรรมไม่ได้เข้าข้างใคร ผู้ชนะหรือผู้ที่ได้รับความเป็นธรรม นำของกำนัล ของขวัญ หรือเงินทองมาให้เมื่อคดีเสร็จแล้วก็ตาม ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายที่เป็นผู้ดำเนินการ หรือเป็นผู้ชี้ขาด รับไว้ไม่ได้ หากรับไว้ถือว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริต และขัดต่อประมวลจริยธรรมนักกฎหมาย เพราะในเรื่องคดีความนั้นเป็นเรื่องที่มี คู่กรณี เมื่อฝ่ายที่ชนะเอามาให้ ฝ่ายแพ้ย่อมจะเข้าใจว่าสาเหตุที่อีกฝ่ายหนึ่งชนะเพราะเอาของขวัญ ของกำนัล หรือเงินทองมาให้ รวมทั้งหากรับไว้จะเป็นหนทางหรือบ่อเกิดของการเพาะนิสัยให้อยากได้ทรัพย์สินของคนอื่นอันจะนำไปสู่ความไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อไป

วรรณกรรมที่แสดงถึงความซื่อสัตย์


วรรณกรรมจีน "เปาปุ้นจิ้น"
          ในสมัยที่ท่านเปาบุ้นจิ้น เป็นผู้พิพากษาอยู่ในเมืองไคฟง ความซื่อสัตย์ยุติธรรมของท่าน เป็นที่กล่าวขานกันทั่วทั้งแผ่นดิน คดีแปลกพิศดารที่ท่านเคยพิจารณาตัดสินมีมากมายหลายคดี คดีที่ท่านไม่เคยลืมเลือนเลยก็คือเรื่องที่จะกล่าวถึงนี้
          ตอนนั้นมีราษฎรคนหนึ่งชื่อหลี่เจียอัน เนื่องจากเจ็บป่วยสุขภาพไม่ดี ภรรยาเสียชีวิตไปนานแล้ว จึงนำเงินทองที่ตนเก็บสะสมมาตลอดชีวิต เป็นเงิน 200 ตำลึง ฝากไว้ที่เพื่อนรักคนหนึ่ง ชื่อจางหุ้ยหมิง เมื่อบุตรชายของหลี่เจียอัน ชื่อจิ่งเหวินโตเป็นหนุ่มแล้ว หุ้ยหมิงจึงนำเงิน200 ตำลึงมาคืนให้เขา คำสั่งเสียของบิดาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย เงินทองที่ไม่กระจ่างแจ้งแบบนี้จะรับได้อย่างไรส่วนหุ้ยหมิงเองเป็นคนซื่อตรงยึดหลักว่า เมื่อรับฝากเงินทองจากเพื่อนก็ต้องคืนให้เขาเต็มจำนวน
คดีนี้ถูกนำขึ้นสู่ศาลขอให้ท่านเปาเป็นผู้พิจารณาตัดสิน ท่านเปารู้สึกแปลกใจ ด้วยคิดไม่ถึงว่าในโลกนี้ยังมีคนที่ไม่โลภหลงเหลืออยู่อีก เพราะว่าครั้นจะตัดสินให้ตกอยู่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด อีกฝ่ายต่างก็ปฏิเสธ ท่านเปาชมเชยในความซื่อสัตย์กล้าหาญของคนทั้งสองและเสนอให้นำเงินจำนวนนี้ เข้าคลังหลวง เพื่อใช้เป็นกองทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคนยากไร้ ซึ่งคนทั้งสองต่างก็เห็นดีด้วย

          จากวรรณกรรมจีนเรื่อง เปาปุ้นจิ้น ตอนนี้จะเห็นได้ว่าความซื่อสัตย์เกิดขึ้นจากบุคลสองคนที่มีความตั้งใจทำใน สิ่งที่ถูกต้อง จากเหตุณ์การดังนี้ ตอนนั้นมีราษฎรคนหนึ่งชื่อหลี่เจียอัน เนื่องจากเจ็บป่วยสุขภาพไม่ดี ภรรยาเสียชีวิตไปนานแล้ว จึงนำเงินทองที่ตนเก็บสะสมมาตลอดชีวิต เป็นเงิน 200 ตำลึง ฝากไว้ที่เพื่อนรักคนหนึ่ง ชื่อจางหุ้ยหมิง เมื่อบุตรชายของหลี่เจียอัน ชื่อจิ่งเหวินโตเป็นหนุ่มแล้ว หุ้ยหมิงจึงนำเงิน 200 ตำลึงมาคืนให้เขา คำสั่งเสียของบิดาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย เงินทองที่ไม่กระจ่างแจ้งแบบนี้จะรับได้อย่างไรส่วนหุ้ยหมิงเองเป็นคนซื่อตรงยึดหลักว่า เมื่อรับฝากเงินทองจากเพื่อนก็ต้องคืนให้เขาเต็มจำนวน อีกทั้งทั้งสองไม่เพียงแค่มีความซื่อสัตย์แต่ยังมีความเสียสละซึ่งเห็นได้ จากเหตุการณที่ท่าน เปาปุ้นจินตัดสินให้นำเงินของทั้งสองเข้าสู่คลังหลวงทั้งสองก็ไม่ได้ขัดขืน แต่อย่างใด